The Secrets of Dumbledore กับเวทมนต์ที่มาสานต่อความมหัศจรรย์ไปรับฟังกัน

ในโลกของเวทมนต์ยังดำเนินต่อไป ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยผ่านไปความพยายามที่จะสร้างหนังยังมาอยู่เรื่อยๆ ต้บอกตามตรงเลยว่ากลับมาครั้งนี้เป็นการเติบเต็มที่เต็มไปด้วยความพยายามของหนังเรื่องนี้ เพราะภาคก่อนทำเอาไว้ได้ไม่ดีและต่ำกว่ามาตรฐานทำให้หนังเรื่องนี้ไม่เป็นไปตามที่เราได้หวังไว้ แต่ว่าไปแล้ว Fantastic Beasts : The Secrets of Dumbledore ยังคงเป็นความพยายามที่พวกเขาก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอยู่เหมือนเดิมตามเคย ถ้าเทียบที่เราดูหนังของภาคที่แล้ว ก็ถือว่าหนังได้ช่วยยกความสนุกได้ดีขึ้น องค์ประกอบของหนังที่มีการทำให้ดูลื่นไหลยิ่งขึ้นถึงจะยังไม่เพอร์เฟคสักเท่าไรนัก แต่ก็ถือว่าพัฒนาการไปในทางที่ดี แต่ยังคงมีจุดอ่อนอยู่บ้างเช่นเคย Fantastic Beasts : The Secrets of Dumbledore ส่วนของแรงดึงดูดและเสน่ห์การเล่าเรื่องเกี่ยวกับหนังเป็นจุดที่เราดูหนังแล้วทำให่มีแรงดึงดูดและการเล่าเรื่อง กลายเป็นจุดที่หนังไม่สามารถหาความสมบูรณ์แบบในแบบที่ Harry Potter เขาทำไว้ได้เลยสักนิดเดียวทำให้ภาคนี้ความรู้สึกมันไปในทางที่ค่อนข้างจะจืดชืด น่าเบื่อหน่ายไม่มีแรงดึงดูดและไม่สามารถเรียกความสนใจสักเท่าไร ถึงหนังจะพยายามสร้างความข้มข้นให้มากขึ้นมาก็เถอะ

หนึ่งประเด็นที่หนังภาคนี้สามารถถ่ายทอดออกมาให้ชัดเจนขึ้นเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่เราคิดว่าน่าสนใจก็คือความเป็นตัวตนของดัมเบิลดอร์เป็นการขยี้ปมที่ช่วยสร้างความกระจ่างให้กับคนดู ได้มากขึ้น โดยภาพรวม Fantastic Beasts : The Secrets of Dumbledore ถือว่าเป็นภาคหนังชุดที่เต็มไปด้วยความพยายามเจตนาดีที่ได้หมายว่าจะปลุกพลังให้กับหนังภาคนี้ได้ แต่ในความพยายามของหนังเรื่องนี้นั้นยังไม่สามารถทำให้ก้าวข้ามจุดด้อยเดิมไปได้ แต่ก็ยังถือว่าเป็นแนวทางพัฒนาที่ดีขึ้นจากภาคที่แล้วได้อย่างชัดเจนถึงจะไม่สามารถ ดึงดูดใจได้เพียงพอ ด้วยหนังยังมีปัญหาจากภาคก่อนๆที่ผ่านมา ทั้งเส้นเรื่องที่ยุ่งๆ การเล่าแบบขาดๆเกินๆเกินไป การเล่าก็ไม่ลงลึกเท่าไรทั้งตัวละครและเหตุการณ์ที่ชวนงงมากๆ ทั้งการเดินเรื่องที่ช้าจนเบื่อทำให้หนังเรื่องนี้ยังถือว่าเกือบจะสนุกอยู่ เพียงแต่ว่าอาจจะยังหาตรงกลางไม่เจอนะสิ คนที่ชอบดูหนังก็คือชอบแหละ ส่วนคนที่เกลียดก็เกลียดไปเลย ต้องรอดูว่าทีมเขียนบทจะทำให้หนังอีก2ภาคที่เหลือ ออกมาได้ดูดีกว่า3ภาคแรกไหม หรือจะกลายเป็นหนังยืดๆงงๆ หาจุดยืนไม่ได้สักที แต่ว่าด้วยความรังสรรค์ของหนัง คือได้นึกถึงบรรยากาศเวทมนต์ โดยเฉพาะในการได้กลับไปปราสาทฮอกวอตส์ พอเพลงขึ้น มันก็รู้สึกแบบสบายใจประมาณว่าเราได้กลับบ้านแล้วประมาณนี้ ซีจีก็คือไม่ขัดตาฉากต่อสู้ของดัมเบิ้ลดอร์ทั้งสองฉากก็คือตื่นตาตื่นใจมาก ระหว่างทางของหนังเรื่องนี้ที่ตัวละครจะต้องทำภารกิจไปในพื้นที่ต่างๆนาๆ เพื่อร่วมพิธีคัดเลือกผู้นำในโลกเวทมนต์คนใหม่ เพื่อที่จะให้สัตว์วิเศษนี้เป็นการการันตรีว่าผู้นำคนต่อไปจะต้องดีพร้อม ก็เท่านั้น ดูไปแล้วก็ถือว่าสร้าความคิดให้เราได้อยู่เรื่องสติ

เอ๊ะ เหมือนกับแนวคิดของประเทศไทยเหมือนกันนะ เลือกคนดี (ที่ตรวจสอบไม่ได้)มาปกครองประเทศ น่ากลัวจริงๆถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไงต่อไปหาดูหนังกันได้เลยนะคะ